วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557


กิจกรรมปลูกต้นไม้รักษาโลกของเรา



 จริงหรือไม่ที่การปลูกต้นไม้สามารถลดระดับความสูงของน้ำทะเล การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก และการลดระดับความรุนแรงของพายุเฮอร์ริเคนได้
จากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ กล่าวว่า ข้อความดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ปลูกต้นไม้ ซึ่งการปลูกป่าไม้ในบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรและบริเวณขั้วโลกนั้นมีผลทำให้อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้น แต่การปลูกต้นไม้ในเขตป่าร้อนชื้นนั้นจะสามารถชะลอการเกิดภาวะโลกร้อนได้
ทีมนักวิจัยจาก Lawrence Livermore National Laboratory ได้ทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับผลกระทบของสภาวะของโลกและวัฏจักรของคาร์บอนจากการตัดไม้ทำลายป่าเป็นบริเวณกว้างจากแบบจำลองสามมิติในการศึกษาช่วงแรก พบว่าบริเวณที่เป็นป่ามีผลต่อการเพิ่มอุณหภูมิสะสมของโลก
ป่าไม้มีผลกระทบต่อสภาวะของโลกใน 3 ทาง คือ อย่างแรก การดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศ ช่วยรักษาอุณหภูมิของโลกให้คงที่ อย่างที่สอง การปล่อยไอน้ำสู่บรรยากาศและการเพิ่มความชื้น และอย่างสุดท้าย คือ การปกคลุมพื้นดินจากแสงแดด ซึ่งก็เป็นการช่วยลดความร้อนของโลกได้เช่นกัน แต่ผลกระทบอย่างแรกเท่านั้นที่นับว่าเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนที่ได้มาจากการปลูกป่าปลูกต้นไม้
ผลการศึกษาชี้ว่า ป่าในเขตร้อนชื้นนั้นมีประโยชน์ต่อสาภวะโลกร้อนนี้มาก เนื่องมาจากการดูดซึมคาร์บอนจากบรรยากาศและเพิ่มปริมาณเมฆ หรือความชื้น ซึ่งช่วยในการลดอุณหภูมิของโลกได้เป็นอย่างดี

 แต่ในทางตรงกันข้าม ผลการทำนายในปีค.ศ. 2100 เขตป่าไม้ในบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรและบริเวณขั้วโลกจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 10 องศาฟาเรนไฮต์ เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่ไม่มีป่าไม้บริเวณนี้ ทีมนักวิจัยได้ให้เหตุผลว่าการปกคลุมพื้นดินของป่าไม้ในบริเวณขั้วโลกมีผลต่อการดูดซับแสงแดดจากท้องฟ้าได้มากขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงการเพิ่มอุณหภูมิของผิวโลก และก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนได้เร็วขึ้นนั่นเอง
    จากผลการศึกษาดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การอนุรักษ์ รักษาป่าไม้ ทั่วโลกอาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการชะลอการเกิดสภาวะโลกร้อน แต่วิธีการที่ดีที่สุดในการรับมือและหลีกเลี่ยงกับสภาวะนี้ก็คือ การเปลี่ยนแปลงระบบการจัดการด้านพลังงาน จากพลังงานถ่านหินและเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษอื่นๆจากการเผาไหม้ มาเป็นพลังงานทดแทนหรือพลังงานประเภทใหม่ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ อย่างเช่น ป่าไม้ ให้คงอยู่เพื่อสร้างความสมดุลให้กับสภาพแวดล้อมบนโลกนี้








รักษ์ต้นไม้



      ปลูกต้นไม้ในห้องช่วยลดมลพิษ  ปลูกต้นไม้ในห้อง โดยปลูกไม้กระถางผสมถ่านกับดิน ถ่านจะเป็นตัวช่วยดูดซับสารมลพิษและจุลินทรีย์ภายในห้องได้  ลดการใช้ถุงพลาสติก ช่วยลดภาวะโลกร้อน หันมาใช้ถุงผ้า ลดการใช้ถุงพลาสติก เพราะการเผากำจัดถุงพลาสติกในเตาเผาขยะอย่างถูกวิธี ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีก๊าซเรือนกระจกเพิ่มในบรรยากาศ แยกขยะอินทรีย์ การแยกขยะอินทรีย์ ออกจากขยะอื่นๆ เช่น เศษผัก เศษอาหาร เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ สร้างนโยบาย 3Rs- Reduce, Reuse, Recycle ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างเต็มที่ เป็นการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการกำจัด ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตันต่อรถยนต์ 1 คัน    ใช้บริการรถสาธาณะ  การขับรถยนต์น้อยลง นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ร่มรื่นในบ้าน การปลูกต้นไม้ที่สามารถให้ร่มเงาได้ ไว้ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของบ้าน ร่มเงาของต้นไม้ก็จะช่วยบังแสงอาทิตย์ ที่ส่งมาสร้างความร้อนให้กับตัวบ้านได้ทั้งวัน จึงสามารถลดการใช้เครื่องปรับอากาศในบ้านลง ผลที่ตามมาคือค่าไฟที่ลดลงถึง 20% ต่อปี กระดาษคือต้นไม้ กระดาษ 1 ตัน แปรรูปมาจากต้นไม้อย่างต่ำถึง 17 ต้น เราจึงต้องใช้กระดาษอย่างคุ้มค่าที่สุดโดยการใช้ให้ครบทั้ง 2 หน้า ปลูกต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับเครื่องปรับอากาศ 1 ตัน   ปลูกต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับเครื่องปรับอากาศ 1 ตัน ที่ให้ความเย็น ประมาณ 12,000 บีทียู แค่ปลูกต้นไม้ 1 ต้น ก็ถือว่าเราได้ช่วยกันรักษ์โลก รักษ์ชีวิต แล้วครับ/ค่ะ คนรุ่นใหม่อย่างพวกเรานำเทคโนโลยีมาช่วยในการรักษ์โลก 
รักษ์ชีวิตได้ คนรุ่นใหม่อย่างพวกเรานำเทคโนโลยีมาช่วยในการรักษ์โลก รักษ์ชีวิตได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น